the hunger games 4
ตระเตรียมเจอกับการเริ่มการต่อสู้คราวสุดท้ายที่จะแปลงพาเน็มไปชั่วกัลปวสาน ภาคจบของภาพยนตร์ที่ผู้ชมทั่วทั้งโลกเผ้าคอยรอสูงที่สุดที่ปีที่สร้างการปรากฏฟีเวอร์เร่าร้อนที่สุดที่ทศวรรษ!ถึงเวลาสาหรับศึกการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะระบุชะตาของมนุษย์อีกทั้งพาเน็ม เมื่อแคทนิส เอเวอร์ดีน(เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ร่วมมือกับเขต 13 รวมทั้งรับข้อเสนอของผู้นำรอน์(จูลีแอนน์ มัวร์) ที่จะรับหน้าที่ “ม็อกกิ้งเจย์” เครื่องหมายและก็ความมุ่งหวังแล้วก็หัวหน้าสำหรับเพื่อการเคลื่อนคราวนี้ ภายหลังที่ก่อนหน้าที่ผ่านมาผู้นำสโนว์ประกาศกร้าวที่จะไม่ยินยอมยอมตามให้กับกรุ๊ปกบฏอีกต่อไปรวมทั้งพร้อมที่จะโต้กลับแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน พวกเขาก็ด้วยเหมือนกันที่พร้อมจะต่อสู้จำพวกที่ถ้าหากจะต้องมอดไหม้ อีกข้างก็จำต้องมอดไหม้ไปด้วย! สล็อตxo
ภายหลังจากรอมานานนานแรมปี ท้ายที่สุดเมื่อวานนี้ The Hunger Games: Catching Fire ก็ถึงเวลาเปิดฉายในบ้านพวกเรารอบ Thailand Premiere ซึ่งตามก้นรอบ World Premiere มาติดๆโชคดีที่ได้โอกาสได้ไปดูรอบนี้กับเขาด้วย วันนี้เลยต้องการจะมาทดลองรีวิวมองกับเขาบ้างน่ะขอรับ อีกทั้งในฐานะของผู้ที่ถูกใจดูหนัง
และก็ในฐานะของผู้ที่รักหนังสือชุดนี้เป็นความรู้สึกนึกคิดขอรับThe Hunger Games ในภาคแรกทิ้งค้างผู้ชมไว้ภายหลังการประลอง The Hunger Games ครั้งที่ 74 จบลงพร้อมผู้ชนะสองคนจากเขต 12 ซึ่งหมายถึง Katniss Everdeen และก็ Peeta Mellark ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของเกมอย่างสิ้นเชิง
เพราะว่ากฏของเกมเป็นการมีผู้ชนะเหลือรอดออกมาเพียงผู้เดียวเพียงแค่นั้น ไม่ใช่ 2 คนแบบที่เกิดขึ้น โดยการมีผู้ชนะ 2 คนจากกลยุทธ์ของของสองของกำนัลที่ถูกส่งมาให้ฆ่าคุ้นเคยในช่วงต้นนั้นสร้างความรู้สึกไม่ถูกใจให้กับ ประธานาธิบดี Snow เป็นอันมาก แล้วก็โน่นยังเป็นจุดเริ่มต้นของความมุ่งหวังที่ตรงประเด็นประกายขึ้นอยู่กับทั้งยัง 12 เขตอีกที
ซึ่งเป็นชนวนส่งผลให้เกิดการก่อจราจลเพื่อการปฏิวิว่ากล่าวถัดไป ผลจากความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ ประธานาธิบดี Snow สั่งประหาร Seneca Crane ผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็น Gamemaker สำหรับเพื่อการชิงชัยครั้งที่ 74 ทิ้งด้วยเหตุว่าเขาไม่อาจจะปฏิบัติภารกิจๆได้รับได้อย่างที่ควรเป็นThe Hunger Games: Catching Fire
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายหลังความมีชัยของ Katniss รวมทั้ง Peeta ใน The Hunger Games ครั้งที่ 74 โดยในคราวนี้ ประธานาธิบดี Snow มีแผนการที่จะจัดแจงกับ Katniss แล้วก็ Peeta รวมทั้งผู้ชนะเกมแบบล้างบาง โดยมี Plutarch Heavensbee ที่ขอสมัครใจมาเป็น Gamemaker คนใหม่ที่จะเป็นคนคิดค้นอุปสรรค์ขวากหนามรวมทั้งการทรมาทรกรรมของขวัญอีกทั้ง 24 คนจาก 12 เขตเพื่อความปราถทุ่งนาของ ประธานาธิบดี Snow เป็นจริงขึ้นมาได้ โดย The Hunger Games ในปีนี้นั้นจัดขึ้นเป็นปีที่ 75 ซึ่งทุกๆ25 ปี
เกมล่าชีวิตเกมนี้จะถูกเรียกชื่อในชื่อ Quarter Quell ซึ่งจะเป็นปีที่มีการตั้งกฏ ข้อตกลง รวมทั้งเกมการประลองขึ้นมาได้ใหม่ ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นอย่างปีธรรมดา รวมทั้งแน่ๆว่าในเมื่อปีนี้เป็นปีที่ 75 มันก็เลยนับว่าเป็น Quarter Quell ครั้งที่ 3 กับกฏการประลองที่ Snow
ประกาศออกมาภายใต้คำเสนอแนะของ Plutarch โดยกฏของ Quarter Quell ครั้งที่ 3 นี้ก็คือการจับเอาผู้ชนะรายเดิมจากทั้งยัง 12 เขต อีกทั้งหญิงรวมทั้งชาย กลับเข้ามาใน Arena เพื่อฆ่ากันจนกระทั่งเหลือผู้ชนะเพียงผู้เดียวนั่นเอง…ยินดีต้อนรับสู่ The Hunger Games ครั้งที่ 75 – The Quarter Quell
Catching Fire ออกเป็น 3 องก์ใหญ่ๆในฉบับภาพยนตร์หน้าจอยักษ์ที่ตนมารับหน้าที่ต่อจาก Gary Ross ผู้กำกับคนเก่าในภาคแรก โดยสามองก์ที่ว่านั้นแบ่งได้เป็นองก์แรกที่กล่าวถึงชีวิตและก็การดำรงชีวิตภายหลังการเป็นผู้ชนะเกมล่าเกมของ Katniss แล้วก็ Peeta รวมทั้งผลพวงรวมทั้งความคาดหวังที่พวกเขาเป็นผู้กระทำให้เกิดขึ้นภายหลังจากการแข่งขันชิงชัยในคราวนั้น ก่อนที่จะองก์ลำดับที่สองจะพาพวกเรากลับไปยัง Capitol ที่ซึ่งพวกเราจะได้ทราบจะกับผู้เข้าชิงที่เหลือในปีนี้ที่ต่างก็เคยเป็นผู้ชนะ The Hunger Games สล็อต
กันทั้งหมดทั้งปวง ก่อนที่จะเดินทางมาถึงองก์ในที่สุดของเรื่องที่ว่าด้วยเรื่องราวด้านใน Arena แบบล้วนๆอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ทั้งยัง 3 เดี๋ยวนี้ Francis เลือกที่จะแบ่งเวลาออกอย่างประจวบเหมาะภายใต้ความยาวกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งของ Catching Fire รวมทั้งส่งผ่านอารมณ์ความรู้สึกต่างๆมาถึงผู้ชมได้อย่างแจ่มแจ้ง ทั้งยังแรงกดดัน ลุ้นระทึก รวมไปจนกระทั่งความโศรกระทดที่เชื้อเชิญก่อน้ำตาให้เอ่อเบ้าได้จริงๆ
หนึ่งในผู้แสดงที่สร้างเงื่อนความกลัดกลุ้มให้เกิดขึ้นในใจของผู้ชมได้อย่างแจ่มแจ้งอาจหนีไม่พ้น Effie Trinket คนที่เคยไม่มีสหายโดยตลอด คุณเป็นสาวคนรับหน้าที่จับฉลากรายนามของขวัญประจำเขต 12 และก็เป็นราวกับผู้ประกาศประจำกลุ่มของเขตๆนี้ พวกเราจะได้มองเห็นความก้าวหน้าทางด้านความเกี่ยวข้องของผู้แสดงนี้ที่มีต่อ Katniss และก็ Peeta อย่างเห็นได้ชัดกระทั่งรับทราบได้ถึงความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริงภายใต้กิริยาท่าทางรวมทั้งการแต่งองค์ทรงเครื่องที่เกินจริงของคุณ
ดังนี้อาจต้อชูความดีความชอบให้กับ Elizabeth Banks ที่ถ่ายทอดอารมณ์ความห่วงหาแท้จริงหัวใจนั้นออกมาได้อย่างแจ่มแจ้งมากมายแม้ว่าจะยังจะต้องคงจะอัตลักษณ์ที่ “มาก” เกินจริงของ Effie เอาไว้ นอกเหนือจากคุณแล้ว แม่รวมทั้งน้องสาว (Primrose Everdeen) ของ Katnis ก็ยังสามารถส่งพลังออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมอีกเหมือนกันแม้ว่าจะได้ร่วมฉากในรูปภาพยนตร์ประเด็นนี้เพียงแต่น้อยนิด
นี่ยังไม่นับรวมทั้งผู้แสดงอื่นๆที่ดาราหนังสามารถเล่นกันได้เป็นอย่างดีพวกนั้นอีกที่ช่วยทำให้งานดราม่าของ The Hunger Games Catching Fire นั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบีบบังคับผู้ชมเลยสักหน่อย ถ้าหากคุณเคยมีความคิดว่าฉาก Rue ใน The Hunger Games ภาคแรกนั้นไม่เสียใจพอเพียง คุณคงจะรู้สึกสาใจกับคลื่นดราม่าใน Catching Fire นี้ได้สักครั้ง
และก็เนื่องด้วยภาคนี้ ส่วยที่เคยเป็นผู้ชนะ The Hunger Games ปีกลายๆถึง 24 คนจำต้องกลับเข้ามาในลานทดสอบใหม่อีกรอบ พวกเราก็เลยได้โอกาสได้มองเห็นดาราใหม่ๆที่ไม่เคยมีหน้าที่ในภาคแรกมาก่อนเดินตบเท้ากันเข้ามาบนภาพยนตร์อย่างแน่น ทุกคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ดีเยี่ยม โดยยิ่งไปกว่านั้นกับเหล่าตัวเอกคนใหม่ของซีรีส์ทั้งหลายแหล่ที่เหมาะแก่คำยกย่องกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Sam Claflin (สวมบทบาทเป็น Finnick Odair) Lynn Cohen (เล่นบทเป็นป้า Mags ที่แม้ว่าจะบทเงียบ แม้กระนั้นแสดงออกทางสีหน้าท่าทางได้อย่างดียิ่ง) Jena Malone (สวมบทเป็น Johanna Mason) แล้วก็ผู้อื่นอีกเพียบเลยร่ายตรากตรำ
แล้วก็แน่ๆว่าสาวเหล่าศิลปินเอกของซีรีส์ทุกคนก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างดียิ่งเหมือนปกติ (แบบจริงๆนะ จะต้องไปดูคุ้นเคย) ทั้งยัง Jennifer Lawrence (Katniss ยังมีอะไรให้จำต้องดูหญิงคนนี้อีกไหม คุณยอดเยี่ยมจริงๆ) Josh Hutcherson (Peeta ผมว่าประเด็นนี้เขาแสดงได้ชัดแจ้งมากมาย ไม่เคยทราบสิขอรับ แต่ว่าดูแล้วเชื่อเลยว่าเขาเป็น Peeta) Woody Harrelson (Haymitch) รวมทั้ง Liam Hemsworth (Gale)
เป็นกลุ่มสเปเชียลเอฟเฟ็คครับ ที่มาในภาคนี้ได้งบประมาณสร้างสูงจากเดินอีกกว่าเท่าตัวอย่างยิ่งจริงๆ แน่ๆว่าคนใดที่เคยอ่านหนังสือแล้วย่อมรู้ว่าภาคนี้ เมื่อไปสู่ลานแข่งขัน คนกับคนมันไม่ใช่หลักสำคัญ แต่ว่าประเด็นสำคัญคือเรื่องของคนกับอุปสรรค์มากยิ่งกว่า หลายต่อหลายฉากที่ผมจินตนาการไว้ตอนอ่าน กลุ่มผู้ผลิตสามารถทำมันออกมาได้อย่างในจินตนาการเลยขอรับ ตอดตอนองก์ข้างหลังของเรื่องก็เลยเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกรวมทั้งตื่นเต้นจนกระทั่งเผลอนั่งเกร็งลุ้นตามไปเช่นกันทั้งที่รู้เรื่องราวอยู่แล้ว นี้ผมก็เลยมั่นใจว่ายิ่งกับผู้ที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนคงจะลุ้นไปกับฉากใน Arena ได้ง่ายๆเลยขอรับ สมัครslotxo
สิ่งในที่สุดที่จะต้องเอ๋ยถึงเป็นเรื่องของ Score รวมทั้ง Soundtrack ประกอบภาพยนตร์ที่ยังคงทำเป็นดีราวกับอย่างที่พวกเราได้มองเห็นในภาคแรกและก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้ชมยังไงเกิดความรู้สึกทางเพศร่วมตามไปได้ในหลายๆฉากจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ดูภาพยนตร์ในโรงระบบเสียงใหม่ Dolby Atmos ยังไม่แน่ใจเช่นกันว่าเรื่องอื่นจะเป็นยังไง แต่ว่าสำหรับ The Hunger Games: Catching Fire แล้ว ระบบเสียงใหม่นี้มันช่างสาแก่ใจจริงๆครับผม ยิ่งขับให้ดูหนังสนุกสนานเข้าไปใหญ่เลย
ว่ามันโตขึ้นตามธีมของเรื่องเยอะแยะเลยขอรับ โดยในภาคที่แล้วสองเพลงเด่นอาจจะหนีไม่พ้นเพลง Safe & Sound รวมทั้ง Eyes Open ของ Taylor Swift ที่ส่วนมากแล้วจะเป็นการกล่าวถึงเรื่องที่จุดโฟกัสที่ไปที่ตัวเอกเป็นหลักมากยิ่งกว่า (ผมถูกใจ Safe & Sound มากมายครับผม คิดว่าถ้าเอาเพลงนี้มาใช้กับเล่มสามในขณะที่มั่นใจว่าคนอ่านที่ได้อ่านไปแล้วเศร้าโศกสุดๆนั้นมันคงจะเป็นอะไรที่ฟินมากๆตอนฟังเพลงนี้คราวแรกยังคิดเลยว่าเห้ย แต่งมาเพื่อฉากนั้นรึเปล่าฟ่ะเนี่ย) แม้กระนั้นในภาคนี้ เพลงเด่นสองเพลงประจำภาคอย่าง Atlas (Coldplay) แล้วก็ We Remain (Christina Aguilera) นั้นเอ๋ยถึงหัวข้อที่กว้างกว่าสองเพลงจาก Taylor Swift มากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นกับ We Remain ที่เหมาะสมอย่างมากกับการใช้เป็นเพลงธีมเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของ Catching Fire ออกมา เพราะว่าไม่ว่าต้องพบเจอกับร้อนหนาวที่สาดซัดเข้ามาสักแค่ไหน พวกเขาก็จะยังคงยืนหยัดต่อสู้ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาก็จะยังคงอยู่ตลอดกาลจริงๆ
The Hunger Games: Catching Fire จบฉากลงด้วยปลายที่เปิดพร้อมสืบต่อในภาคถัดไป (Mockingjay 1 รวมทั้ง 2 สำหรับฉบับหนัง) อย่างเห็นได้ชัดเสมือนในหนังสือเด๊ะๆ(กล่าวได้ว่าจบที่จุดเดียวกันเลยดีมากกว่า) และไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเดนตายของ The Hunger Games Series ไหม คุณจำเป็นต้องใคร่รู้รวมทั้งต้องการติดตามข้อสรุปของเกมล่าเกมนี้ถัดไปอย่างแน่แท้
เมื่อ End Credit ขึ้น เสียงตบมือจากคนดูและเหล่านักวิพากษ์วิจารณ์ก็ดังขึ้นเหมือนกัน นี่คงจะเป็นเครื่องประกันถึงความสนุกสนานที่ The Hunger Games: Catching Fire มอบให้กับเราที่ได้โอกาสได้ดูรอบ Thailand Premiere กันไปได้อย่างดีเยี่ยม แล้วก็ก่อนจบขอปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ที่ถูกใจดูหนังแล้วก็ผู้ที่ถูกใจวรรณกรรมเยาวชนชุด The Hunger Games นี้เป็นความรู้สึกนึกคิด ขอออกสตาร์ทเชียร์ให้ไปดูกันเถิดครับผมสำหรับ Catching Fire โดยถ้าคุณเคยรักภาคแรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณจะยิ่งหลงภาคนี้เลย และก็ถ้าเกิดคุณเคยถูกใจภาคแรก คุณจะกลายเป็นรักมัน ส่วนผู้ที่เคยชิงชังภาคแรกเอาไว้ ภาคนี้คงจะทำให้ท่านถูกใจได้อย่างง่ายๆอย่างยิ่งจริงๆนะครับ
ฉากต่อสู้สุดระทึก ในหนังภาคนี้เหล่าทหารจากเขต 13 และก็กรุ๊ปกบฏจะต้องเดินทางเข้าไปยังแคปปิตอล ซึ่งสิ่งที่พวกเขาจำต้องพบเจอนั้นเต็มไปด้วยกับสุดอันตราย ซาตานที่ผู้นำสโนว์จัดแจงเอาไว้เพื่อจัดแจงกับพวกเขา ซึ่งฉากการหนีในท่อที่มีไว้ระบายน้ำเป็นฉากที่ผู้กำกับอย่างฟรานซิส ลอว์เรนซ์บอกเองเลยว่านี่จะเป็นฉากที่ตนดูเหมือนจะตื่นเต้นรวมทั้งลุ้นมากมายๆรวมทั้งนอกเหนือจากนั้นยังมีฉากใหญ่ๆที่ผู้นำสโนว์การวางเป้าหมายหลอกตาเพื่อหลอกเหล่าชาวกรุงแคปปิตอลที่พวกเราจำต้องจับตากันด้วย
บทความที่น่าสนใจ เกมส์ ไพ่ ดั ม มี่ เก็บ คะแนน nfl game pass Monkey King helicopter games commando games เกมส์ ขาย แฮมเบอร์เกอร์ game mega Genie minecraft games เกมส์ ทหาร ออก รบ game android Safari Life youth olympic games 2018 เกมส์ จี ที เอ 3 five game A Night Out
Update : 20 พฤศจิกายน 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)